Last updated: 21 มิ.ย. 2562 | 7330 จำนวนผู้เข้าชม |
อุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ มีบทบาทสำคัญมากในปัจจุบันนี้ โดยส่วนมากจะมีความไวต่อความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าที่ได้รับ ดังนั้น ผู้ใช้งานอย่างเราๆ จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาที่ตามมาเสมอ ซึ่งผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากปัญหาทางไฟฟ้า เช่น การชำรุดและเสียหายของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ หรือการสูญหายของข้อมูลที่สำคัญ ไปจนถึงการสูญเสียเวลา ตลอดจนสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งนับว่าเป็นผลกระทบที่มีความรุนแรง
ดังนั้น การทำความเข้าใจถึงต้นเหตุของปัญหา และการเตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับผลที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่ใช้งานอุปกรณ์ทางไฟฟ้าต่างๆ จึงสำคัญมาก ที่จะช่วยให้เราเตรียมตัวป้องกันปัญหาและป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ปัญหาทางไฟฟ้าที่พบได้ทั่วๆไป มีดังนี้
1. ไฟฟ้าตก (Sag หรือ Brownout)
ไฟฟ้าตก คือ ?
ไฟฟ้าตกคือ สภาวะที่แรงดันไฟฟ้าลดต่ำลงจากปกติในช่วงเวลาสั้นๆ นับว่าเป็นปัญหาทางไฟฟ้าที่พบบ่อยที่สุด
สาเหตุของไฟตก ?
เกิดจากการเปิดสวิตช์อุปกรณ์บางชนิดที่ต้องการใช้กระแสไฟฟ้ามาก เช่น มอเตอร์, ปั๊มน้ำ, เครื่องปรับอากาศ, ลิฟต์ และเครื่องมือเครื่องจักร เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้ต้องการกระแสไฟฟ้ามากในการติดเครื่องเมื่อเทียบกับการทำงานในภาวะปกติ ส่งผลให้แรงดันไฟฟ้าในสายส่งการไฟฟ้าฯ ลดต่ำลง
ผลกระทบ ?
ทำให้เกิดการหยุดชะงักของระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์บางส่วนชำรุดเสียหายได้ จะส่งผลให้ข้อมูลสูญหาย นอกจากนี้ยังลดประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า และอายุการใช้งานก็ลดต่ำลงด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมอเตอร์ของอุปกรณ์ไฟฟ้า
2. ไฟฟ้าดับ (ฺBlackout)
ไฟฟ้าดับ คือ ?
ไฟดับคือ สภาวะที่กระแสไฟฟ้าหยุดจ่ายไฟเข้าสู่ระบบ
สาเหตุของไฟฟ้าดับ ?
เกิดจากความต้องการกระแสไฟฟ้าจากสายส่งการไฟฟ้าฯ ที่มากเกินไป, เกิดไฟฟ้าลัดวงจรในสายส่ง, พายุฟ้าคะนอง, แผ่นดินไหว และปัญหาที่เกิดกับสายส่งการไฟฟ้าฯ เช่น เสาไฟฟ้าล้ม หรือหม้อแปลงระเบิด ฯลฯ ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายไฟจากการไฟฟ้าให้ได้
ผลกระทบ ?
การทำงานของ RAM หยุดชะงักทันที ทำให้ข้อมูลปัจจุบันสูญหายได้ รวมถึงการบันทึกข้อมูลของตารางการจัดการแฟ้ม (FAT) สูญหายได้ มีผลให้ข้อมูลที่เก็บไว้ทั้งหมดสูญหายได้
3. ไฟฟ้ากระชาก (Spike)
ไฟฟ้ากระชาก คือ ?
ไฟกระชาก คือ สภาวะที่แรงดันไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน โดยสามารถเข้าไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ทั้งจากสายส่งการไฟฟ้าฯ เครือข่ายสื่อสาร และสายโทรศัพท์
สาเหตุของไฟกระชาก ?
เกิดจากฟ้าผ่าในบริเวณใกล้เคียง หรืออาจเกิดจากสายส่งการไฟฟ้าฯ ที่หยุดการทำงานไปและกลับมาทำงานใหม่อย่างกะทันหัน
ผลกระทบ ?
สร้างความเสียหายหรือทำลายชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ รวมถึงข้อมูลเกิดการสูญหาย
4. ไฟฟ้าเกิน (Surge)
ไฟฟ้าเกิน คือ ?
ไฟเกิน คือ สภาวะที่มีแรงดันไฟฟ้าไหลมามากเกินในช่วงเวลาสั้นๆ (1/120 วินาที)
สาเหตุของไฟเกิน ?
เกิดจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์กินไฟมาก เช่น เครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านอื่นๆ ที่ลักษณะใกล้เคียงกัน ฯลฯ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้เมื่อหยุดทำงาน แรงดันไฟฟ้าส่วนหนึ่งที่เหลืออยู่ในมอเตอร์ จะไหลกลับเข้าไปในสายส่งการไฟฟ้าฯ ทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าสูงเกิน
ผลกระทบ ?
ทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติหรือเสียหายได้ รวมถึงหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์สูญหายและคลาดเคลื่อน, Power supply เสียหาย และการทำงานของระบบสื่อสารผิดพลาด
5. สัญญาณรบกวน (Noise)
สัญญาณรบกวน คือ ?
สัญญาณรบกวนที่เกิดจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) และสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ (RFI) ซึ่ง 2 สัญญาณเหล่านี้จะไปรบกวนสัญญาณคลื่นซานย์ (Sine Wave) ของสายส่งการไฟฟ้าฯ
สาเหตุของสัญญาณรบกวน ?
เกิดขึ้นได้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ (เช่น ฟ้าผ่า), การเปิด-ปิดสวิตช์อุปกรณ์ไฟฟ้า, เครื่องส่งวิทยุ และอุปกรณ์ต่างๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยสัญญาณรบกวนอาจเกิดขึ้นเป็นระยะๆ หรืออาจเกิดอย่างสม่ำเสมอก็ได้
ผลกระทบ ?
ทำให้การประมวลผลของโปรแกรมและแฟ้มข้อมูลทำงานผิดพลาดและเกิดข้อบกพร่อง
18 มิ.ย. 2562
18 มิ.ย. 2562
18 มิ.ย. 2562