ปัจจุบันมีผู้เข้าใจว่า การเลือกซื้อ UPS นั้น พิจารณาเพียงขนาด (VA), ระยะเวลาสำรองไฟ (Backup Time) และราคา ก็น่าจะครบถ้วนแล้ว
แต่ในความเป็นจริง ยังมีหลักเกณฑ์ที่ควรนำมาประกอบการพิจารณาเลือกซื้อ UPS อีกหลายข้อ เนื่องจาก UPS ที่มีขายในประเทศไทยตอนนี้ มีหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ทำให้ผู้ซื้ออาจเกิดข้อสงสัยและสร้างความสับสนในการตัดสินใจเลือกซื้ออยู่ไม่น้อย
คุณจะไม่ยุ่งยากลำบากใจในการเลือกซื้อ UPS อีกต่อไป หลังจากได้อ่านบทความนี้
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟ
1. ประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้า และความสำคัญของอุปกรณ์ ที่จะนำ UPS ไปสำรองไฟ เป็นอุปกรณ์ประเภทใด มีความไวต่อคุณภาพของกระแสไฟฟ้ามากน้อยขนาดไหน และมีความสำคัญเพียงไร?
- อุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทที่มีความไวต่อคุณภาพของกระแสไฟฟ้า หรือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความสำคัญมาก เช่น เครื่องมือวัด, เครื่องมือแพทย์, Computer Server เป็นต้น
- ควรเลือกใช้ UPS ชนิด True on line UPS
- อุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทที่ไม่มีความไวต่อคุณภาพของกระแสไฟฟ้า หรือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความสำคัญไม่มาก เช่น คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงาน
- ควรเลือกใช้ UPS ชนิด Online Protection UPS หรือ Line Interactive UPS with Stabilizer
2. คุณภาพของกระแสไฟฟ้าในสถานที่ที่จะนำ UPS ไปใช้งานมีลักษณะเป็นอย่างไร?
- หากสถานที่ที่จะนำ UPS ไปใช้งานมีปัญหาเรื่องความแปรปรวนของกระแสไฟฟ้ามากๆ
- ควรเลือกใช้ UPS ชนิด True on line UPS
- หากสถานที่ที่จะนำ UPS ไปใช้งานไม่มีปัญหาเรื่องความแปรปรวนของกระแสไฟฟ้ามากนัก
- ควรเลือกใช้ UPS ชนิด Online Protection UPS หรือ Line Interactive UPS with Stabilizer
3. ขนาดกำลังไฟฟ้า (VA) ที่อุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทดังกล่าวใช้เป็นเท่าไร?
- ขนาดกำลังไฟฟ้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ จะต้องไม่สูงกว่ากำลังไฟฟ้าที่ UPS สามารถจ่ายได้ โดย ควรอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงทั้งหมด ควรมีขนาดกำลังไฟ ไม่เกิน 80% ของขนาดกำลังไฟฟ้าของ UPS
4. พื้นที่สำหรับติดตั้ง และลักษณะของตำแหน่งของอุปกรณ์ไฟฟ้า ในพื้นที่ใช้งานเป็นอย่างไร?
- หากทำการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าใกล้เคียงกันในพื้นที่ไม่กว้างนัก มีพื้นที่จำกัด
- ควรเลือกใช้ UPS ขนาดใหญ่เพื่อที่จะสามารถต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าได้พร้อมกันหลายๆ เครื่อง เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ และอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน
- หากทำการติดตั้งของอุปกรณ์ไฟฟ้าห่างไกลกัน ควรเลือกใช้ UPS ขนาดเล็กต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบหนึ่งต่อหนึ่ง คือ นำอุปกรณ์ไฟฟ้าหนึ่งเครื่องต่อเข้ากับ UPS ขนาดเล็กหนึ่งเครื่อง
5. ต้องการให้ UPS จ่ายพลังงานสำรองได้นานเท่าไร? (Backup Time)
- โดยปกติ ระยะเวลาสำรองไฟ จะมีความสัมพันธ์กับขนาดกำลังไฟฟ้าของ UPS และขนาดกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น UPS ขนาด 350 - 500 VA ซึ่งใช้แบตเตอรี่ 7 Ah จะสามารถจ่ายไฟให้กับคอมพิวเตอร์ และจอสี 15 นิ้ว 1 จอ ได้นาน 15 - 30 นาที และหากเป็น UPS ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิด High-Rate จะสามารถสำรองไฟฟ้าได้ 25 - 40 นาทีเลยทีเดียว (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งาน)
6. ชื่อเสียงของบริษัทผู้ผลิตและการบริการหลังการขาย
- ความมุ่งมั่นและระยะเวลาในการทำธุรกิจ จะเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความจริงจังในการดำเนินธุรกิจของบริษัทนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี บริษัทที่มีความตั้งใจอันแน่วแน่และมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจใดๆ ย่อมจะต้องนำเสนอแต่สินค้าที่มีคุณภาพดี และให้บริการที่มีมาตรฐาน ตลอดจนมีการพัฒนาด้านคุณภาพสินค้า, ระบบการผลิต และการบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
7. มาตรฐานสากลที่บริษัทผู้ผลิตได้รับ และหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานสากลนั้นๆ
- เนื่องจากการได้รับมาตรฐานสากลไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะได้มาโดยง่าย โดยเฉพาะสำหรับผู้ผลิตภายในประเทศที่สามารถทำให้หน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานในระดับนานาชาติยอมรับได้นั้น ผู้ผลิตจะต้องพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองเป็นอย่างมาก เพื่อให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกับบริษัทชั้นนำของโลก
เพิ่มเติม...